ประวัติ "ภูไทคำตากล้า"
ขอย้อนรอยภูมิประวัติอันยิ่งใหญ่ ชาวภูไทคำตากล้าสง่าศรี
เกียรติภูมิชาวภูไทถิ่นคนดี ประวัติมีคำบอกกล่าวยาวนาน
ถิ่นเดิมอยู่เมืองบกและเมืองวัง หรือเมืองวังอั่งคำเป็นถิ่นฐาน
อยู่ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงแต่กาลก่อน ร่วมสร้างบ้านปลูกเรือนเหย้าเผ่าภูไท
ปีสองพันสี่ร้อยได้ย้ายถิ่น จากดินแดนถิ่นที่เคยอาศัย
อพยพข้ามน้ำโขงสู่แดนไทย ตั้งรกรากปักไว้ที่เมืองเว
แขวงเมืองไทรบุรีเป็นที่มั่น เมืองเรณูปัจจุบันอย่าหันเห
อุดมดีทรัพย์ในดินสินทั้งเพ ไม่ร่อนเร่แรมร้างห่างไกลเมือง
เกิดคนดีชื่อว่า"ท้าวสีหราช" ท่านเก่งกาจสามารถปราดเปรื่อง
ได้สมัครเป็นทหารป้องกันเมือง สร้างความดีชื่อเรื่องระบือไกล
ได้เป็น"หลวงคำมุงคุณอาณาเขต" ป้องกันเหตุเภทภัยชาวเมืองได้
ทุกคนต่างเคารพท่านด้วยจริงใจ ดูแลให้บ้านเมืองสุขเสมอมา
ไม่นานนักเกิดสงครามฝั่งซ้ายโขง ท่านออกโรงยกทัพไปประจันหน้า
ปราบศึกใหญ่แต่ต้องพ่ายแพ้กลับมา เพราะเหตุฆ่าฟันสตรีเพราะจำใจ
ท่านเกิดท้อรันทดใจหดหู่ ต้องอดสูเศร้าสลดสุดอดได้
พาทหารหนีกลับระงับใจ เป็นเหตุให้ต้องโทษผิดอนิจจา
มีช้างเจ็ดม้าสิบเอ็ดวัวสิบสี่ ไม่รอรีเกณฑ์กันโกลาหล
บ้างขับเกวียนเดินทางเท้าเข้าสกล สู้ดั้นด้นพ้นป่าพนาสี
ถึงพรรณนานิคมก็หยุดพัก จะตั้งหลักหรือไม่ก็ใช่ที่
ต้องรอนแรมเดินทางต่ออีกที ถึงถิ่นที่บ้านนาเหลืองบ้านนาบัว
ได้ตกลงทำสวนทำนาไร่ แต่ห่างไกลน้ำแล้งแห้งขอดทั่ว
อัตคัดฝืดเคืองทุกครอบครัว เดือดร้อนทั่วจึงโยกย้ายถ่ายเทไป
เดินทางมาถึงบ้านท่ากกแดง ตั้งหลักแหล่งหวังทำนาและทำไร่
เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดชาวภูไท ไม่ทันไรต้องทิ้งบ้านเช่นผ่านมา
ข้ามแม่น้ำสงครามมาก่อตั้ง รวมพลังสร้างหมู่บ้านคำตากล้า
เป็นดินแดนถิ่นอุดมทั้งข้าวปลา จะทำนาทำไร่ได้ผลดี
ต่างทำมาหากินบนถิ่นสุข ลืมความทุกข์ที่ผ่านพ้นบนวิถี
สืบเชื้อสายชาวภูไทชั่วตาปี สิ้นท้าวศรีหราชขาดผู้นำ
ได้ยกให้ท้าวกาลูเป็นหัวหน้า ดูแลชาวประชาให้ชุ่มฉ่ำ
ขึ้นตำบลคูสะคามถิ่นน้ำดำ เมืองผู้นำอำเภอคือวานร
ย่างสองพันสี่ร้อยห้าสิบเก้า หมู่บ้านเราได้เป็นตำบลก่อน
แต่ก็ยังขึ้นตรงกับวานร นายไกรษร ศรีสุราช เป็นกำนัน
มีตำแหน่งเป็น"ขุนศรีสุรเกษม" ต่างปรีดิ์เปรมท่านปัดทุกข์ให้สุขสันต์
ต้นตระกูล"ศรีสุราช"ที่รู้กัน ด้วยยึดมั่นคุณธรรมนำชีวี
ไม่นานนักเป็นอำเภอคำตากล้า ทุกถ้วนหน้ามีสง่าเชิดราศรี
ชาวภูไทกลมเกลียวมั่นสามัคคี ครองชีวีสงบสุขตราบทุกวัน.
> บันทึกภาพ/ประชาสัมพันธ์โดย... เว็ปมาสเตอร์ (ฉลามขาว)